ระบบฐานข้อมูล (Database)
ความหมายของระบบฐานข้อมูล
ฐานข้อมูล (Database) หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน ที่นำมาเก็บรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีระบบและข้อมูลที่ประกอบกันเป็นฐานข้อมูลนั้นต้องตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานขององค์กรด้วย เช่น ในสำนักงานก็รวบรวมข้อมูล ตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่มาติดต่อ ประวัติข้อมูลส่วนตัวจนถึงการเก็บเอกสาร ข้อมูลทุกอย่างของสำนักงาน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะมีส่วนที่สัมพันธ์กันและเป็นที่ต้องการนำออกมาใช้ประโยชน์ต่อไปภายหลังได้อย่างทันที ข้อมูลนั้นอาจจะเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของสถานที่ หรือเหตุการณ์ใด ๆ ก็ได้ที่เราสนใจศึกษา หรืออาจได้มาจากการสังเกต การนับหรือการวัดก็เป็นได้ รวมทั้งข้อมูลที่เป็นตัวเลข ข้อความ และรูปภาพต่าง ๆ ก็สามารถนำมาจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลได้ และที่สำคัญข้อมูลทุกอย่างต้องมีความสัมพันธ์กัน เพราะเราต้องการนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคตที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่บริหารฐานข้อมูลโดยตรง ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้เกี่ยวกับรายละเอียดภายในโครงสร้างฐานข้อมูล
ความสำคัญของระบบฐานข้อมูล
การจัดข้อมูลให้เป็นระบบฐานข้อมูลทำให้ข้อมูลมีส่วนดีกว่าการเก็บข้อมูลในรูปของแฟ้มข้อมูล เพราะการจัดเก็บข้อมูลในระบบฐานข้อมูล จะมีส่วนที่สำคัญกว่าการจัดเก็บข้อมูลในรูปของแฟ้มข้อมูลดังนี้
1. ลดการเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อน ข้อมูลบางชุดที่อยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูลอาจมีปรากฏอยู่หลาย ๆ แห่ง เพราะมีผู้ใช้ข้อมูลชุดนี้หลายคน เมื่อใช้ระบบฐานข้อมูลแล้วจะช่วยให้ความซ้ำซ้อนของข้อมูลลดน้อยลง เช่น ข้อมูลอยู่ในแฟ้มข้อมูลของผู้ใช้หลายคน ผู้ใช้แต่ละคนจะมีแฟ้มข้อมูลเป็นของตนเอง ระบบฐานข้อมูลจะลดการซ้ำซ้อนของข้อมูลเหล่านี้ให้มากที่สุด โดยจัดเก็บในฐานข้อมูลไว้ที่เดียวกัน ผู้ใช้ทุกคนที่ต้องการใช้ข้อมูลชุดนี้จะใช้โดยผ่านระบบฐานข้อมูล ทำให้ไม่เปลืองเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลและลดความซ้ำซ้อนลงได้
2. รักษาความถูกต้องของข้อมูล เนื่องจากฐานข้อมูลมีเพียงฐานข้อมูลเดียว ในกรณีที่มีข้อมูลชุดเดียวกันปรากฏอยู่หลายแห่งในฐานข้อมูล ข้อมูลเหล่านี้จะต้องตรงกัน ถ้ามีการแก้ไขข้อมูลนี้ทุก ๆ แห่งที่ข้อมูลปรากฏอยู่จะแก้ไขให้ถูกต้องตามกันหมดโดยอัตโนมัติด้วยระบบจัดการฐานข้อมูล
3. การป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลทำได้อย่างสะดวก การป้องกันและรักษาความปลอดภัยกับข้อมูลระบบฐานข้อมูลจะให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าไปใช้ฐานข้อมูลได้เรียกว่ามีสิทธิส่วนบุคคล (privacy) ซึ่งก่อให้เกิดความปลอดภัย (security) ของข้อมูลด้วย ฉะนั้นผู้ใดจะมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงข้อมูลได้จะต้องมีการกำหนดสิทธิ์กันไว้ก่อนและเมื่อเข้าไปใช้ข้อมูลนั้น ๆ ผู้ใช้จะเห็นข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลในรูปแบบที่ผู้ใช้ออกแบบไว้
4. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ เนื่องจากในระบบฐานข้อมูลจะเป็นที่เก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้ ผู้ใช้แต่ละคนจึงสามารถที่จะใช้ข้อมูลในระบบได้ทุกข้อมูล ซึ่งถ้าข้อมูลไม่ได้ถูกจัดให้เป็นระบบฐานข้อมูลแล้ว ผู้ใช้ก็จะใช้ได้เพียงข้อมูลของตนเองเท่านั้น ข้อมูลของระบบเงินเดือน ข้อมูลของระบบงานบุคคลถูกจัดไว้ในระบบแฟ้มข้อมูลผู้ใช้ที่ใช้ข้อมูลระบบเงินเดือน จะใช้ข้อมูลได้ระบบเดียว แต่ถ้าข้อมูลทั้ง 2 ถูกเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลซึ่งถูกเก็บไว้ในที่ที่เดียวกัน ผู้ใช้ทั้ง 2 ระบบก็จะสามารถเรียกใช้ฐานข้อมูลเดียวกันได้ ไม่เพียงแต่ข้อมูลเท่านั้นสำหรับโปรแกรมต่าง ๆ ถ้าเก็บไว้ในฐานข้อมูลก็จะสามารถใช้ร่วมกันได้
5. มีความเป็นอิสระของข้อมูล เมื่อผู้ใช้ต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับโปรแกรมที่เขียนขึ้นมา จะสามารถสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมาใช้ใหม่ได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อระบบฐานข้อมูล เพราะข้อมูลที่ผู้ใช้นำมาประยุกต์ใช้ใหม่นั้นจะไม่กระทบต่อโครงสร้างที่แท้จริงของการจัดเก็บข้อมูล นั่นคือ การใช้ระบบฐานข้อมูลจะทำให้เกิดความเป็นอิสระระหว่างการจัดเก็บข้อมูลและการประยุกต์ใช้
6. สามารถขยายงานได้ง่าย เมื่อต้องการจัดเพิ่มเติมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะสามารถเพิ่มได้อย่างง่ายไม่ซับซ้อน เนื่องจากมีความเป็นอิสระของข้อมูล จึงไม่มีผลกระทบต่อข้อมูลเดิมที่มีอยู่
7 ทำให้ข้อมูลบูรณะกลับสู่สภาพปกติได้เร็วและมีมาตรฐาน เนื่องจากการจัดพิมพ์ข้อมูลใน ระบบที่ไม่ได้ใช้ฐานข้อมูล ผู้ เขียนโปรแกรมแต่ละคนมีแฟ้มข้อมูลของตนเองเฉพาะ ฉะนั้น แต่ละคนจึงต่างก็สร้างระบบการบูรณะข้อมูลให้กลับสู่ สภาพปกติในกรณีที่ข้อมูลเสียหายด้วยตนเองและด้วยวิธีการของตนเอง จึงขาดประสิทธิภาพและมาตรฐาน แต่เมื่อมาเป็นระบบฐาน ข้อมูลแล้ว การบูรณะข้อมูลให้กลับคืนสู่สภาพปกติจะมีโปรแกรมชุดเดียวและมีผู้ดูแลเพียงคนเดียวที่ดูแลทั้งระบบ ซึ่งย่อมต้อง มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันแน่นอน
ตัวอย่างการออกแบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า
ขั้นตอนที่ 1 กำหนด Entity ทั้งหมดของระบบ
ขั้นตอนที่ 2 กำหนด Attribute ต่าง ๆ ของ Entity และกำหนด Primary key (คีย์หลัก) B
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง Entity แต่ละ Entity
ขั้นตอนที่ 4 ทำการเปลี่ยน Entity ที่ได้อยู่ในรูปตาราง
ตารางลูกค้า (Customer)
รหัสลูกค้า | ชื่อลูกค้า | นามสกุล | ที่อยู่ | จังหวัด | หมายเลขโทรศัพท์ |
CU-001 | นางลูกไก่ | กายสิทธิสกุลสูง | 122/3 หมู่ 4 ต. เขาสามยอด อ.เมือง | ลพบุรี | |
CU-002 | นางกุ๊กกิ๊ก | ตั้งใจซื่อตรง | 123 หมู่ 1 ต.ถนนใหญ่ อ.เมือง | ลพบุรี | |
CU-003 | นายมาดแมน | แสนกุศลแรงกล้า | 2354 /1 หมู่ 3 ต.วังจั่น อ.โคกสำโรง | ลพบุรี | |
CU-004 | นายสุดหล่อ | เสี้ยวความดี | 2356/251 เทศบาลเมือง | ลพบุรี |
ตารางใบสั่งซื้อ (Order)
รหัสใบสั่งซื้อ | วันที่สั่งซื้อ | รหัสลูกค้า | รหัสสินค้า | จำนวนสินค้าที่สั่ง |
OR-001 | 12/02/2550 | CU-002 | 001001 | 2 |
OR-001 | 12/02/2550 | CU-002 | 005 | 5 |
OR-001 | 12/02/2550 | CU-002 | 003 | 3 |
OR-002 | 14/02/2550 | CU-001 | 001 | 10 |
OR-002 | 14/02/2550 | CU-001 | 002 | 5 |
OR-003 | 25/02/2550 | CU-004 | 003 | 6 |
OR-003 | 25/02/2550 | CU-004 | 004 | 4 |
ตารางสินค้า (Product)
รหัสสินค้า | ชื่อสินค้า | รหัสประเภทสินค้า | ประเภทสินค้า | ยี่ห้อสินค้า | รุ่นสินค้า | ราคาต่อหน่วย | จำนวนในสต๊อก |
001 | ปลากระป๋อง | PR-001 | เครื่องกระป๋อง | สามแม่ครัว | AL_0041 | 20.00 | 100 |
002 | ซอสมะเขือเทศ | PR-002 | ซอส | ภูเขาทอง | SO_120 | 56.00 | 150 |
003 | บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | PR-003 | บะหมี่ | ยำยำ | ND_003 | 5.50 | 200 |
004 | บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป | PR-003 | บะหมี่ | ไวไว | ND_023 | 5.50 | 50 |
005 | น้ำตาลทราย | PR-004 | น้ำตาล | มิตรผล | SU_542 | 22.00 | 250 |
ประโยชน์ของระบบฐานข้อมูล
1. ลดความซ้ำซ้อนข้อมูลในฐานข้อมูล เนื่องจากถ้ามีการเก็บข้อมูลซ้ำซ้อนกัน จะทำให้การแก้ไขเปลี่ยนแปลข้อมูลในตารางทำได้ไม่สะดวก ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีความจำเป็น ต้องบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์
รหัสการสั่งสินค้า
|
วันที่สั่งสินค้า
|
รหัสสินค้า
|
ชื่อสินค้า
|
จำนวนสินค้าที่สั่ง
|
23045
|
02/03/98
|
1002
|
หนังสือ
|
10
|
23045
|
02/03/98
|
1005
|
CD-ROM
|
3
|
23046
|
15/03/98
|
1001
|
เสื้อกีฬา
|
11
|
23047
|
16/03/98
|
1002
|
หนังสือ
|
5
|
23047
|
16/03/98
|
1006
|
เทป
|
4
|
23048
|
17/03/98
|
1005
|
CD-ROM
|
24
|
จากตารางข้างต้น จะเป็นตารางการสั่งซื้อสินค้า เราจะสังเกตได้ว่าในตารางนี้มีชื่อสินค้าซ้ำกัน ซึ่งจะเกิดข้อเสียต่างๆ เช่น
· การแก้ไขข้อมูล เมื่อเราต้องการเปลี่ยนชื่อสินค้า เราจะต้องเปลี่ยนชื่อสินค้าทุกชื่อ ซึ่งมีอยู่หลายที่ เช่น CD-ROM ในตัวอย่างข้างต้น
· การเพิ่มข้อมูล เมื่อเราต้องการเพิ่มสินค้าใหม่ลงไปในตาราง เราจะต้องเพิ่มรหัสการสั่ง สินค้าลงไปด้วยทุกครั้ง ข้อมูลในตารางจึงจะถูกต้อง
· การลบข้อมูล เมื่อเราต้องการลบข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าที่มีรหัสการสั่งสินค้า 23045 จะต้องลบข้อมูลของสินค้า 2 ตัวออกไปพร้อมกัน จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
2. ตอบสนองความจำเป็นในการเรียกใช้ข้อมูลในเวลาที่สั้นที่สุด โดยหลังจากออกแบบฐานข้อมูลเสร็จแล้ว เราสามารถเรียกข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว เพราะว่าข้อมูลในตารางที่ออกแบบอย่างถูกต้องจะไม่มีการซ้ำซ้อน ทำให้ไม่เสียเวลาค้นหาข้อมูล เนื่องจากข้อมูลที่ต้องการจะอยู่ในตารางที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เช่น ต้องการค้นหาราคาสินค้าอย่างหนึ่ง จะไปค้นที่ตารางสินค้า ไม่ได้ไปค้นที่ตารางใบสั่งสินค้า เป็นต้น
3. สามารถกำหนดลักษณะการเข้าถึงข้อมูลสำหรับผู้ใช้แต่ละประเภทได้ เช่นพนักงานทั่วไป จะสามารถดูตารางที่มีข้อมูลของตัวเองได้เท่านั้น และไม่สามารถแก้ไข ข้อมูลต่างๆ ในฐานข้อมูลได้ ส่วนพนักงานป้อนข้อมูลสินค้าสามารถแก้ไขข้อมูลในตารางสินค้าได้เป็นต้น
4. ทำให้มีความอิสระระหว่างข้อมูลกับ Application เนื่องจากเราสามารถออกแบบแอพพลิเคชั่นให้ดึงข้อมูลที่ต้องการจากฐานข้อมูลเท่านั้น ไม่ต้องใส่ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ลงไปในApplication เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเราเพียงแต่เปลี่ยนในฐานข้อมูลเท่านั้นไม่ต้องเปลี่ยนในแอพพลิเคชั่น ซึ่งหมายถึง ต้องสร้างไฟล์ในการทำงาน และตรวจสอบความถูกต้องของ Application ใหม่ ซึ่งยุ่งยากมาก
5.ลดความจำเจของงานดูแลเอกสาร ซึ่งเป็นงานประจำที่ทำให้ผู้ดูแลรู้สึกเบื่อหน่าย และขาดแรงจูงใจ แต่เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานนี้แทนมนุษย์ได้ โดยผ่านโปรแกรมสำหรับการจัดการฐานข้อมูล
6.ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแลปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ
7.หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้ เมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บในระบบฐานข้อมูล จะทำให้ข้อมูลลดความซ้ำซ้อนลง คือ มีข้อมูลแต่ละประเภทเพียงหนึ่งชุดในระบบ ทำให้ข้อมูลที่เก็บได้ไม่ขัดแย้งกันเอง ในกรณีที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อสาเหตุบางประการ เช่น เพื่อความรวดเร็วในการประมวลผลข้อมูล ระบบจัดการฐานข้อมูลจะเป็นผู้ดูแลข้อมูลที่ซ้ำกันให้มีความถูกต้องตรงกัน
8.จัดทำระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถกำหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะทำการตรวจสอบสิทธิ์ในการทำงานกับข้อมูลทุกครั้ง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์ในการเรียกดูข้อมูล การลบข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล และการเพิ่มข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล
9.ควบคุมความถูกต้องของข้อมูลได้ ปัญหาเรื่องความขัดแย้งกันของข้อมูลที่มีความซับซ้อน เป็นปัญหาหนึ่งในเรื่องความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งเมื่อได้มีการกำจัดความซับซ้อนของข้อมูลออก ปัญหาเรื่องความถูกต้องของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้
แหล่งที่มา:
http://mpnn2551.net46.net/Subjects/DBMS32042014/dataBaseIntro.html
http://portal.in.th/asudah/pages/detu/
http://www.learners.in.th/blogs/posts/503782
http://61.7.221.103/access-online/database/database1.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น